“ปลาหมอคางดำ” ปัญหาที่กำลังคุกคามระบบนิเวศในประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ปลาหมอคางดำได้กลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบนิเวศของประเทศไทย โดยเฉพาะในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร ซึ่งเริ่มต้นจากการขอนำเข้าปลาชนิดนี้ในช่วงปี พ.ศ. 2546 โดยคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับรายงานเกี่ยวกับการขอนำเข้าปลาดุกรัสเซียและปลาหมอคางดำ โดยมีการนำเข้าปลานิล (Sarotherodon melanotheron) เพื่อใช้ในการปรับปรุงอัตราการเจริญเติบโตของปลาและทำให้ทนทานต่อความเค็มที่สูงขึ้น การทดลองได้ดำเนินการที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด เมื่อปลาทยอยตายอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาในช่วงปลายปี พ.ศ. 2554 ปลาหมอคางดำเริ่มแพร่ระบาดในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลยี่สาร และในต้นปี พ.ศ. 2555 การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำกลับทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้สัตว์น้ำพื้นถิ่นที่ได้เพาะเลี้ยงในบ่อ ฟาร์ม และแหล่งน้ำธรรมชาติได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง การแพร่ระบาดดังกล่าวส่งผลกระทบทั้งในเชิงเศรษฐกิจและระบบนิเวศอย่างรุนแรง ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่มีพฤติกรรมรุนแรง และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม จึงทำให้สามารถแพร่กระจายไปยังแหล่งน้ำต่างๆ ได้ง่าย ส่งผลให้ปลาพื้นถิ่นที่มีอยู่ก่อนถูกคุกคามจนเกือบสูญพันธุ์ นอกจากนี้ ปลาหมอคางดำยังสามารถกินสัตว์น้ำพื้นถิ่น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศโดยรวม
การควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากมันมีการขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านการควบคุมการนำเข้าและการจัดการกับปลาหมอคางดำที่มีอยู่ในแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจในอนาคต
ยังมีอีกหลายบทความทางสุขภาพที่น่าสนใจ ให้ทุกท่านได้อ่านกันใน “รายงานสุขภาพคนไทย” ทุกเล่ม ทุกปี อ่านฟรีได้แล้ววันนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่ www.thaihealthreport.com หรือ ติดต่อขอรับรูปเล่มหนังสือรายงานสุขภาพคนไทยได้ทุกปี ผ่านทางกล่องข้อความ Chat ทาง Facebook "สุขภาพคนไทย" กดปุ่มติดต่อขอรับหนังสือ และรอแอดมินติดต่อกลับได้เลยครับ